Drive your business

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557

Think Creativity

Think Creativity 
                                                                                                 by Korpai


                ว่ากันว่าพลังของ “ความคิดสร้างสรรค์” มีอยู่ในตัวตนของมนุษย์ทุกคน ความคิดใหม่ ๆ (New) ที่เป็นเอกลักษณ์ (Unique) แตกต่าง (Different) หรือดีกว่า (Better) จะถูกหยิบยกออกมาใช้ด้วยความสามารถของมนุษย์ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้นับว่าเป็นพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ที่เป็นประโยชน์ หากเรานำออกมาใช้ได้อย่างถูกต้อง
                นักทฤษฎีต่าง ๆ ได้กล่าวไว้ว่า ความสามารถในการสร้างสรรค์กิจกรรมใหม่ ๆ ด้วยความคิดสร้างสรรค์นั้น ทั้งทางด้านศิลปะหรือทางด้านวิทยาศาสตร์ล้วนเป็นเรื่องเดียวกัน ความคิดสร้างสรรค์ จึงเปรียบเสมือนการค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ใน “ภาพ” ที่เรามองเห็น


                หลายคนที่เป็นนักเขียน หรือออกไปในแนวศิลปินหน่อย ๆ มักจะอธิบายว่า ความคิดสร้างสรรค์เหมือนเป็นอะไรบางอย่างที่ลอยอยู่ในอากาศ พวกเขาจึงเชื่อว่า มีบางสิ่งบางอย่างจากภายนอก สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน รวมถึงจินตนาการ ที่ดึงพวกเขาเข้าไปมีส่วนร่วม และทำให้เกิดไอเดียสร้างสรรค์

                ภาพสร้างสรรค์หลายภาพที่เรามองเห็น จึงสามารถทำให้เกิดไอเดียต่าง ๆ มากมาย อย่างเช่นภาพด้านล่างนี้เป็นภาพถ่ายของหญิงสาวที่แต่งตัวด้วยชุดบัลเล่ต์สไตล์นานาชาติเข้าไปในพื้นที่ประเทศ Kenya ก็สามารถทำให้เราจินตนาการได้ว่า เมื่อความเป็น International ได้เข้าไปในพื้นที่สลัมแห่งนี้ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หากมีการหยิบยื่นความช่วยเหลือพื้นที่นี้จากนานาชาติ อีก 20 ปี 30 ปีถัดไป พื้นที่แห่งนี้จะยังคงเป็นสลัมต่อไปเหมือนเดิม หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน 

                 และในขณะเดียวกันในเชิงธุรกิจ ก็ไม่มีไอเดียไหนที่เป็นต้นฉบับของไอเดีย แต่ว่ามีไอเดียที่ใหม่และใหม่กว่า ปรับไปตามกาลเวลา ซึ่งหมายถึงความคิดสร้างสรรค์ ที่ปรับสิ่งที่มีอยู่เดิม ผ่านกระบวนการทางความคิด ผ่านข้อมูลต่าง ๆ เป็นเหมือนกับการสร้างสิ่งที่ใหม่กว่า (Newest) หรือ สว่างไสวมากกว่า (Brightest)
                ดังนั้น ในหัวสมองของมนุษย์เราจึงมีความคิดสร้างสรรค์อยู่ตลอดเวลา แต่ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าเราไม่ดึงความคิดสร้างสรรค์นั้นออกมาใช้  ความท้าทายต่อจากนี้ของมนุษย์จึงเป็นความสามารถที่จะทำในสิ่งที่เราทำได้ ซึ่งเป็นแรงผลักดันมาจากภายใน ความมั่นใจ ตัวตน การเป็นที่ยอมรับ ความเป็นอิสระ หรือจริยธรรมต่าง ๆ จะถูกค้นและขับเคลื่อนด้วยตัวบุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์

หลายอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้จินตนาการได้ว่าเราสามารถจะกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์เหล่านี้ได้อย่างไร (How to inspire creativity) เช่น

·       พยายามมองหาความคิดสร้างสรรค์ (Look for creative thinking)
·       สร้างสรรค์ความคิดนั้นด้วยตนเอง (Be creative yourself)
·       มีส่วนร่วมในสิ่งที่สร้างสรรค์ (Always involve in creative) เป็นการเติมความคิดสร้างสรรค์นั้นด้วยประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการได้เห็น ได้ยิน หรือได้สัมผัส
·       สามารถปกป้องพื้นที่ความคิดสร้างสรรค์ หรือบรรยากาศความคิดสร้างสรรค์ (Protect your creative and your creative atmosphere)
และที่สำคัญ หากเป็นการเรียนรู้ให้เกิดความคิดที่สร้างสรรค์ มักมีความเชื่อว่า สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ มีความสัมพันธ์กัน (Everything connects to everything else) ความคิดสร้างสรรค์จึงเป็นสิ่งใหม่ ที่เชื่อมต่อทุกสิ่งได้อย่างไม่คาดคิด
ลองมาทบทวนกันดูซิว่า ความคิดสร้างสรรค์ของคุณนั้นเป็นอย่างไร?

Update เรื่องเศรษฐกิจ

Update เรื่องเศรษฐกิจ by Korpai
                Thailand Fact Sheet ฉบับสัปดาห์นี้จะขอ Update เรื่องเศรษฐกิจ ด้วยตัวเลขสถิติที่สำคัญเกี่ยวกับปริมาณการค้าของโลก และตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย ในยุคข้ามปี พ.ศ.ใหม่
ข้อมูลเครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจ ได้มีการสรุปเครื่องชี้วัดที่สำคัญโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (จากแหล่งข้อมูล IMF, World Economic Outlook และหน่วยงานอื่น ๆ ในเดือนธันวาคม 2556) ซึ่งเราจะเห็นได้ถึงอัตราร้อยละและแนวโน้มของเศรษฐกิจที่คาดการณ์ไว้ในปี 2014
ภาพรวมเศรษฐกิจของโลก ปี 2014 จะมีขยายตัวมากขึ้น ขยับจากปี 2013 ร้อยละ 2.9 เป็นร้อยละ 3.6 และ World Trade Volume จะเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.9 เป็น 4.9
สำหรับเศรษฐกิจของประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา (อัพเดทข้อมูลถึงปี 2012) มีอัตราการขยายตัวของการผลิตภาคเศรษฐกิจที่สำคัญ เป็นดังนี้
ภาคการเกษตร ในภาพรวมเติบโตร้อยละ 3.8 สาขาเกษตรกรรม การล่าสัตว์ และป่าไม้ เติบโตร้อยละ 5.2 ส่วนสาขาการประมงลดลงร้อยละ 3
นอกภาคเกษตร ในภาพรวมเติบโตร้อยละ 6.7 โดยสาขาไฟฟ้า สาขาการโรงแรมและภัตตาคารมีอัตราการเติบโตมากที่สุด เติบโตร้อยละ 11.6 รองลงมาเป็นก๊าซและประปา ร้อยละ 9.7 สาขาการขนส่ง สาขาเหมืองแร่ ร้อยละ 8.2 การเก็บรักษาสินค้าและการคมนาคม ร้อยละ 8.1 สาขาก่อสร้าง ร้อยละ 7.8 สาขาอุตสาหกรรม ร้อยละ 6.9 สาขาสถาบันการเงิน ร้อยละ 6.5 สาขาการค้าส่งและค้าปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ ของใช้ส่วนบุคคลและของใช้ในครัวเรือน ร้อยละ 5.2 สาขาการศึกษาร้อยละ 5.1 สาขางานด้านสุขภาพและงานสังคมสงเคราะห์ ร้อยละ 4.6 สาขากิจกรรมด้านการบริการชุมชน สังคมและบริการส่วนบุคคลอื่น ร้อยละ 4.1 สาขาอสังหาริมทรัพย์ การเช่า และกิจกรรมทางธุรกิจ ร้อยละ 3.9 เป็นต้น
ปี 2013 (ม.ค.-พ.ย.) ผลผลิตนอกภาคการเกษตร ผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารและเครื่องดื่ม โลหะและอโลหะ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์และอุปกรณ์ขนส่ง สินค้าอุตสาหกรรมส่งออก ที่มีการอัตราเพิ่มขึ้นในระยะเดียวกันกับปีก่อนได้แก่ โซดา เหล็กเส้นและเหล็กรูปพรรณ แผ่นเหล็กชุบสังกะสี ปูนซีเมนต์ เครื่องปรับอากาศ รถยนต์นั่ง ผลิตภัณฑ์ยางสำหรับรถ เป็นต้น ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราลดลงหรือติดลบได้แก่ น้ำตาล เบียร์ ปูนเม็ด ทีวี พัดลม หม้อหุงข้าว ตู้เย็น รถยนต์พาณิชย์ อาหารทะเลกระป๋อง สับปะรดกระป๋อง เป็นต้น
สำหรับด้านการบริการ ในเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศมีอัตราที่เพิ่มขึ้น ดัชนีปริมาณการจำหน่ายยานยนต์ประเภทรถยนต์นั่งก็เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.7 รถจักรยานยนต์มีอัตราลดลงร้อยละ 9 ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้น ร้อยละ 49.4

ดุลการค้าปี 2013 (ม.ค.-ต.ค.) ยังเกินดุล 2,843.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ดูภาพประกอบภาวะการค้า)
ความเคลื่อนไหวซึ่งเป็นแนวโน้มของราคาสินค้าเกษตรที่สำคัญเป็นดังนี้



วันเสาร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2557

ปรับกลยุทธ์ทางความคิด เรียนรู้และขัดเกลาจิต

ปรับกลยุทธ์ทางความคิด เรียนรู้และขัดเกลาจิต by Korpai
เดี๋ยวนี้ประเด็นข่าวทางการเมืองช่างร้อนแรง และเป็นที่น่าจับตาอย่างมากในสังคมไทย
การชนะศึกสงคราม (ทางด้านความคิด) ทางการเมืองก็มีการอ้างอิงวงศ์ตระกูลเพื่อที่จะชนะศึกกันเลยทีเดียว บ้านเมืองเราสมัยนี้จึงชักจะไปกันใหญ่ ที่หยิบโยงทุก ๆ เรื่องเข้ามาเกี่ยวข้องกันอย่างไม่มีเหตุมีผล ฉะนั้น การแสดงออกซึ่งความคิดเห็น ถึงแม้จะเป็นเหตุผลส่วนตัวก็ตาม อาจต้องระมัดระวังและคำนึงถึงหลักที่เรายึดเหนี่ยว และคาดการณ์เผื่อถึงอนาคต ที่ความคิดเห็นส่วนตนนั้น อาจสร้างความกระทบกระเทือนถึงบุคคลอื่น ๆ ทั้งที่ใกล้ชิด และที่อยู่แวดล้อมอีกด้วย
ด้วยปัจจุบัน ความเชื่อมโยงทั้งความคิดเห็น การกระทำ คำพูด และสิ่งต่าง ๆ ถูกนำมาเกี่ยวคล้องกันหมด ด้วยคำว่า “ชอบ” หรือ “ไม่ชอบ” “สีเดียวกัน” หรือ “ไม่ใช่สีเดียวกัน” และไม่อาจแยกแยะได้ว่า “เรื่องใดเกี่ยวข้อง” หรือ “เรื่องใดไม่เกี่ยวข้อง” ได้อีกต่อไป และที่สำคัญรากเหง้าแห่งแห่งความดีงามทางประวัติศาสตร์ที่สะสมกันมาเป็นระยะเวลานาน อาจต้องหม่นหมองไปเพราะเข้ามาเชื่อมโยงกับความคิดและการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกทางการเมือง สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้นับว่าเป็นประสบการณ์ที่หลายคน อาจต้องมานั่งทบทวน และตั้งสติกันให้รอบคอบ เนื่องจากผลของการกระทำสามารถบั่นทอนกันและกันได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
                จะว่าไปแล้ว เปรียบเสมือน การปลุกระดมชนวนรอยร้าวทางประวัติศาสตร์ด้วยความต้องการที่จะชนะศึก และแซะรอยช้ำระหว่างกันที่มีมาเนิ่นนานให้ขยายใหญ่ขึ้น เฉกเช่นเดียวกับ “รอยประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกที่ผู้คนต้องล้มหายตายจาก หากคิดที่จะหยิบยกขึ้นมาพูดกันเมื่อไหร่ก็ไม่มีทางสานสัมพันธ์กันต่อไปได้” นับเป็นกลยุทธ์ ที่ทำไปเพื่อต้องการเอาชนะ หากปรับความคิดนี้เสียใหม่ เราอาจเห็นทั้งมิตรภาพและศัตรู ที่คู่นี้อาจเดินเข้ามาหาเราพร้อมกัน
                การดำเนินต่อไปด้วยมิตร สำหรับนักการทูตหรือมนุษย์ธรรมดา  จึงควรหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงรอยร้าว และกล่าวถึงมิตรภาพที่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีที่เราทำได้ในปัจจุบันให้ดำเนินต่อไปได้
การยับยั้งความคิด จากการได้ฟัง ได้เห็น หรือถูกปลุกระดมด้วยอารมณ์ ด้วยช่องทางต่าง ๆ ซึ่งมนุษย์ทุกคนสามารถตระหนักไว้ว่า เรามีสติสัมปะชัญญะเพียงพอ ที่จะไม่เบียดเบียนบุคคลอื่น
                การเบียดเบียนทั้งหลายนี้ ด้วยความเป็นชาวพุทธ อาจต้องกลับมาทบทวนดูสติกันให้มากขึ้น ด้วยหลักศีลห้าที่เป็นพื้นฐาน ก่อนที่จะถามหาเรื่องความมีจริยธรรม ศีลข้อแรก ที่จะไม่เบียดเบียนกันและกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำร้ายร่างกายให้เกิดบาดแผล สูญเสียเลือดเนื้อ ชีวิตเพื่อให้มนุษย์เรามีหลักในการเดิน และหลักสำหรับการสร้างบุญกุศล
                ถึงแม้สถานการณ์โลกจะเจริญก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลงไปมากเท่าใด แต่การศึกษาค้นคว้า และเรียนรู้เพื่อที่จะขัดเกลาจิตใจมนุษย์นั้นหากยังมีน้อย และดูมีแนวโน้มถดถอย การเบียดเบียนของคนในสังคม ก็จะทวีความรุนแรงมากขึ้น
สังคมในปัจจุบัน จึงควรแสวงหาทางเลือกที่จะขัดเกลาจิตใจ ซึ่งสิ่งนี้ย่อมเป็นทางเลือกทั้งในระดับบุคคล และระดับสังคม โดยเฉพาะระดับบุคคล ที่เราเองก็ไม่สามารถบอกให้กับผู้อื่นทำได้ ฉันใดก็ฉันนั้น หากต้องการยกระดับทางด้านความคิด ก็พึงศึกษาเรียนรู้ให้กระจ่างชัด เพื่อที่จะไม่หลงไปยังพื้นที่ของการโน้มน้าวชักจูง หรือกิเลสที่ทำให้เราสติหลุด และประพฤติพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เหมือนกับคนไร้สติได้
                หากมองไปโดยรอบผู้คนที่อยู่แวดล้อม ถึงแม้จะไม่ใช่คนพื้นที่เดียวกัน ไม่รู้จักกัน แต่ด้วยความคิดที่ดีเราก็ควรสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน และนั่น ย่อมเป็นก้าวแรกของการอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข “มุมมองของการเปิดประตูบ้านต้อนรับผู้อื่นด้วยมิตรไมตรี ลดการแบ่งแยกทางสังคมหรือชนชั้น ลดการดูถูกเหยียดหยาม จึงเป็นอะไรที่สามารถช่วยยกระดับจิตใจของมนุษย์เราให้ดียิ่งขึ้น”
                กว้างไปกว่านั้น สำหรับสังคมโลกที่สื่อสารกันได้เหมือนกับอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน เราเคยเห็นถึงสถานการณ์ที่น่าใจหาย ผู้คนบาดเจ็บ ล้มตาย ภัยธรรมชาติ ฯลฯ ที่อนาคตจะต้องรับมือร่วมกันอีกมากมาย
                ที่สำคัญระบบการบริหารจัดการบ้านเมืองของทั่วโลก ก็มีรูปแบบการเมืองและการปกครองที่แตกต่างกันไป ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ ความรู้จากการศึกษารูปแบบทางด้านการเมืองการปกครองด้วยข้อมูลการสืบค้นก็จะช่วยให้ผู้ที่ศึกษาเองมีข้อมูลและความรู้เพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น อย่างน้อย สิ่งต่าง ๆ ที่ดูไร้เหตุผล ก็จะสามารถยุติลงได้โดยง่าย
                ภาพรวมประเทศที่มีลักษณะการเมืองการปกครองที่มีลักษณะการบริหารงานโดยรัฐบาลที่ใกล้เคียงกัน (ดูจากภาพประกอบ)

ต่าง ๆ เหล่านี้ มีแหล่งที่มาและที่ไป ที่ผู้ศึกษาเองสามารถนำมาเป็นข้อมูลเพิ่มเติมความรู้ ศึกษา และสืบค้นได้จากในระบบออนไลน์ และแหล่งความรู้ต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง ทำให้เกิดกระบวนการคัดกรองทางด้านความคิด เหตุผลในเชิงวิเคราะห์ กับรูปแบบสถานการณ์เป็นกรณีศึกษา ซึ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นแหล่งความรู้ด้วยกันทั้งสิ้น
เรื่องหลายเรื่องในปัจจุบัน จึงถูกโยงเข้ามาผูกกันไว้เป็นปม หากเราต้องการคลี่คลายสิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง เราก็ควรหันมาศึกษาให้ทิศทางของการปลูกต้นไม้แห่งประชาธิปไตย สามารถดำเนินต่อไปได้ ให้ต้นไม้ต้นนี้ได้ผลิดอกออกผล มีความสง่างามและน่าเกรงขามต่อไป


กิ่งก้านต่าง ๆ ของทักษะชีวิต (Life Skills)

กิ่งก้านต่าง ๆ ของทักษะชีวิต (Life Skills) by Korpai
                การจำลองรูปแบบความคิดของมนุษย์ในแต่ละวัน ที่มีความคิดในเรื่องต่าง ๆ อยู่สารพัดมากมาย ออกมาเป็นภาพจำลองอย่าง Mind Map ได้ นับว่าเป็นเทคนิคที่สร้างสรรค์ และทรงพลัง โดยเฉพาะหากเรานำเทคนิคนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็จะสามารถกลั่นกรองความคิดออกมาเป็นแก่นสาร พร้อมกับกิ่งก้าน ที่แตกแขนงออกมาให้เห็นภาพของการเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน
                สำหรับการใช้ชีวิตของคนเรา โดยเฉพาะในวัยแห่งการเรียนรู้ หากนำแผนที่ความคิด มาช่วยส่งเสริมกันให้เกิดประโยชน์ ก็จะพบถึงความเชื่อมโยงของความคิดที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะความคิดที่เหมาะสมสำหรับการเรียนรู้ โดยที่ผู้เรียนเองสามารถเป็นศูนย์กลาง ซึ่งจะเห็นความยืดหยุ่นของความคิด ทั้งที่ตีกรอบไว้ และไม่ได้ตีกรอบ
                ครู และอาจารย์ กับการออกแบบการเรียนรู้อย่างเหมาะสม จึงมีส่วนสำคัญที่จะทำให้เด็ก ไทยมีการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์ ซึ่งในปัจจุบันการปฏิรูปองค์ความรู้ต่าง ๆ ก็ได้เกิดขึ้น รวมถึงการบูรณาการองค์ความรู้เดิมกับองค์ความรู้ใหม่ ในสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป
การผสมผสานสิ่งเหล่านี้ จึงเป็นประสบการณ์มากมาย ที่สามารถถ่ายทอดให้กับเด็ก ๆ โดยผู้ถ่ายทอดจะต้องทำความเข้าใจ ใช้ประสบการณ์ และประเมินถึงผลลัพธ์ได้อย่างเหมาะสม
                Theme ของความรู้ในปัจจุบัน จึงไม่ใช่เพียงความรู้จากหลักสูตรการศึกษาเท่านั้น แต่เป็นความรู้เพื่อการใช้ชีวิต ซึ่งสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ตั้งแต่วัยเด็กและเริ่มปฏิบัติตั้งแต่ยังเล็ก
Mind Map จึงเป็นเครื่องมือหรือแผนการเราสามารถเริ่มต้นวาดเส้นทางไปสู่จุดหมาย การแตกแขนงของกิ่งก้านพื้นฐานสำหรับการดำรงชีวิต จึงสามารถทำได้อย่างเป็นอิสระ
ผู้ปกครอง จึงมีบทบาทอย่างมากที่จะมีส่วนร่วมในการเริ่มต้น และจัดการสิ่งต่าง ๆ เรียกได้ในวัยเด็กเล็ก แทบจะ 24 ชั่วโมงเลยก็ว่าได้  และเมื่อเด็ก ๆ โตขึ้น สถาบันการศึกษาก็จะเข้ามามีส่วนร่วมและมีบทบาทในลำดับถัดไป
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการจัดสรรเวลา กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคิด ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงประสบการณ์ ที่สามารถต่อยอดให้กับเด็ก ๆ เรื่องอาหาร น้ำ อากาศ พลังงาน ปัจจัยในการดำรงชีวิต ความแข็งแรง ความปลอดภัย ความรู้ตามหลักสูตรการศึกษา ความรู้นอกห้องเรียน จินตนาการ ศิลปะ สังคม สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี วิถีชีวิต หรือการใช้จ่าย ฯลฯ ล้วนเป็นองค์ความรู้นำไปสู่ภาคปฏิบัติทั้งสิ้น
                ผู้ปกครองสมัยใหม่ จึงมีบทบาทเป็นอย่างมาก การทำความเข้าใจ และออกแบบการเรียนรู้ให้กับลูก ๆ ไว้ล่วงหน้า ในเรื่อง “กิน อยู่ และการใช้ชีวิต” จึงเป็นการบ่มเพาะทักษะชีวิต (Live Skills ให้สะสมไว้ในตัวเด็ก ๆ ทุกคน)
                อย่างไรก็ตามสำหรับการวาดฝันในระดับชาติ ก็มีตัวอย่างที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นของสหรัฐอเมริกา โดย The Foundation for Child Development ที่ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเด็กทั้งในเรื่องการเรียนรู้ จากตนเอง จากครอบครัว และจากสังคม ซึ่งเกี่ยวข้องกับพัฒนาการของเด็กในอนาคต โดยได้เน้นด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตสำหรับเด็ก
                ปัจจัยที่สำคัญเหล่านี้ ได้แก่
·       เศรษฐกิจที่ดีของครอบครัว
·       ความปลอดภัย/ความเสี่ยง ของพฤติกรรม
·       การมีการศึกษาที่ดี
·       การมีสุขภาพดี
·       การมีมนุษยสัมพันธ์ทางด้านสังคมที่ดี
·       การมีภาวะทางด้านอารมณ์ที่ดี และการมีจิตวิญญาณหรือมี Spirit ที่ดี
·       การมีส่วนร่วมในสังคมที่ดี
                ต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นปัจจัยสำคัญในระดับชาติ ซึ่งเกี่ยวข้องกับชีวิตทุกชีวิต เกี่ยวข้องกับผู้คนในสังคมทุกคน การเรียนรู้ที่แตกกิ่งก้านในการทักษะชีวิตที่ดีด้านต่าง ๆ จึงมีความสำคัญอย่างมาก เป้าหมายก็เพื่อให้ผู้คนมีหลักและแก่นสาร อยู่บนเส้นทางที่ดีในสังคมร่วมกัน